ปฏิบัติการหัวใจคุณผียอดวุ่น
ตอนที่ 6
โซดาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีน้ำตาลกับกระโปรงยีนยาวพอดีเข่าดูเข้ากับรองเท้าผ้าใบคู่เซอร์ที่สวมประจำ
เธอยืนเหงาๆ อยู่ในมิตติ้งเล็กๆ ที่จัดขึ้นหลังเสร็จการอบรม หลายคนต่างแลกเปลี่ยนเบอร์มือถือหรืออีเมล์กันสนุกสนาน
คงมีแต่สาวน้อยโซดาที่ยืนอยู่มุมห้องตามลำพังกับจานคุ้กกี้ในมือ
ไม่ว่ายังไงความรู้สึกเหงา
ๆ มันก็ยังโอบกอดเธออยู่...
“ทำหน้าไม่สนุกเลยนะคะ”
“พี่ปกรณ์” โซดาถึงกับสะดุ้งเมื่อร่างสูงโปร่งของนักเขียนสุดปลื้มมาทักทายพร้อมยื่นแก้วน้ำหวานสีแดงสดใสให้เธอ
“คิดอะไรอยู่
มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ...โซดาคิดเรื่องงานที่พี่ปกรณ์ให้ทำนะค่ะ” พูดเอาหน้าไปอย่างนั้นแหละ
อย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่าเธอปลื้มเขามากแค่ไหน
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก
ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำอย่าเค้นเผื่อจะเขียนงาน ให้รู้สึกจากภายในแล้วค่อยจรดปลายปากกาเขียนเป็นเรื่อง
ไม่ต้องห่วงนะ พวกพี่ๆ
ที่นี่ยินดีและรออ่านผลงานของน้องโซดาว่าที่นักเขียนหน้ามือใหม่ในอนาคต”
“ค่ะพี่ปกรณ์”
โซดายิ้มปลื้มตัวแทบจะลอยติดเพดาน
ปกรณ์ขอตัวไปถ่ายรูปกับคนอื่นๆ พอดีกับที่ประตูห้องเปิดต้อนรับร่างของไอดอลหนุ่มสุดฮิตแห่งยุค
ปลายศรเดินเข้ามาทักทายกับคนอื่นด้วยท่าทางวางตัวเหมือนเคย
โซดานึกอยากแหวะท่าทางแบบนี้ แต่พึ่งนึกอะไรบางสิ่งได้
ก็รีบหยิบเสื้อยืดในกระเป๋าเป้แล้วจำใจเดินเข้าไปขอลายเซ็น
‘ขนาดหมวกยังทำหาย ไม่รู้เสื้อจะทำหายเพราะไม่ใส่ใจหรือเปล่านะ’
“นี่ถ้าน้องไม่ได้อบรมคอร์สนี่พี่คงไม่ให้ลายเซ็นของพี่อยู่บนเสื้อน้องแน่ๆ
ยกเว้นแต่บนปกซีดีหรือปกหนังสือของพี่เท่านั้น”
“ค่ะ ต้องขอบคุณพี่ปลายหักเอ๊ยปลายศรมากๆ
ที่กรุณานะคะ”
โซดาใช้นิ้วหยิบเสื้อยืดขึ้นมาด้วยท่าทางขยะแขยงนิดๆ เมื่อดารานักร้องหนุ่มเจ้าของหนังสือเบสเซลเลอร์ของร้านหนังสือชั้นนำ
ในเครือสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่เป็นสายส่งหนังสือเดินจากไปแล้ว
‘อย่าทำหายอีกนะโซดา
ไม่งั้นแกโดนพี่น้ำหวานดุแน่ ๆ’
งานเลี้ยงเลิกราแล้วหลายคนนัดไปเที่ยวต่อ มีเพียงโซดาที่ได้แต่ยืนโบกมือลาหน้าตึกเช่นเคย วันนี้ไม่มีใครมารับ ตั้มตาหยีติดช่วยงานที่อู่ซ่อมรถ
พี่ชายก็ทำงานที่ร้านอาหาร เธอเองก็ไม่อยากเป็นภาระให้เขาที่ต้องทำงานเหนื่อยเผื่อส่งเสียให้เธอร่ำเรียน
งานพ่อครัวในร้านอาหารหรูหราแบบนั้น
ทำให้เบียร์มีเวลาหยุดพักผ่อนไม่เหมือนคนอื่น แต่ละสัปดาห์จะเข้างานเป็นกะ อาทิตย์เข้ากะเช้า
อาทิตย์หน้าเข้ากะบ่าย เพราะอย่างนี้ละมั้งพี่ชายสุดหล่อมาดเข้มของโซดาถึงยังไม่มีแฟนเสียที
เอานะ! ไม่เป็นไรหรอก
สายรถเมล์ที่ต้องนั่งกลับบ้านก็จดไว้เรียบร้อยแล้ว แต่วันนี้ขอแวะร้านหนังสือก่อนกลับบ้าน
เพิ่งบ่ายสองโมงกว่า รถราไม่ติดมากนักเพราะช่วงนี้ยังปิดเทอมใหญ่อยู่ เอ๊ะ!
นั้นซิอีกไม่กี่วันกี่เดือนนะมหาวิทยาลัยจะเปิด เธอยกนิ้วขึ้นนับ
วันนี้สิ้นเดือนเมษายนพอดี มหา’ลัยเปิดเดือนมิถุนายน
ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเวลาให้เธอเขียนนิยายอย่างจริงจังแค่เดือนกว่าเท่านั้นเอง ยังไงก็ต้องรักษาสัญญากับพี่ชายว่าเปิดเทอมเมื่อไหร่ต้องทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนให้มากที่สุด
แถมวันจันทร์หน้าก็ต้องเริ่มไปทำงานพิเศษที่ร้านหมูหยองอินเตอร์เนทแล้วด้วย
“ฉันจะต้องกลับมาที่นี่อีกแน่ ๆ
แต่จะมาในฐานะนักเขียนพร้อมต้นฉบับนิยายเรื่องแรกของฉัน”
ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวไปไหน สายตาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผู้สวมแว่นทรงกลมกรอบเงินยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเช่นทุกที
โซดายิ้มให้นิดนึง ก่อนหมุนตัวกลับถึงจะหน้าตีดีแต่ไม่รู้เป็นพวกโรคจิตรึเปล่า เด็กสาวฝืนทำเป็นไม่ใส่ใจ
นั้นซิใครจะมาใส่ใจผู้หญิงหน้าจืดๆ อย่างเธอได้นะ เธอสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดที่สับสนออกไป
ก่อนถอนหายใจเฮือกและกระชับเป้ที่คล้องไหล่อยู่แล้วเดินไปสู่จุดหมายของวันนี้
ร้านหนังสือมีผู้คนเข้ามาเลือกหนังสือบางตา อาจเป็นเพราะยังเป็นช่วงเวลาทำงาน
ผู้คนที่เข้ามาบ้างก็เข้ามาเพียงเพื่อหลบลมร้อนรับแอร์เย็นฉ่ำ บางคนเข้ามารอถึงเวลานัดหมายกับเพื่อนหรือคนรัก
บางคนก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเหมือนจะให้จบเล่มโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่ค่าเช่าหนังสือก็ตาม
โซดาไล่สายตาดูหนังสือนิยายปกใหม่ของดุจตะวันเธอมีไม่ครบทุกเล่ม
แต่อ่านมาเกือบหมดแล้วเพราะหาเช่ามาอ่านเมื่อครั้งที่อยู่ขอนแก่น หนังสือนิยายแบบนี้ในห้องสมุดของโรงเรียนไม่มีให้อ่าน
พอเห็นหนังสือใบหน้าและรอยยิ้มอบอุ่นของเจ้าของนามปากกาที่เธอสุดปลื้ม ก็เผลอยิ้มคนเดียวอย่างไม่รู้ตัว เธอเลือกพลิกอ่านดูหนังสือเล่มใหม่ที่ออกมาอวดโฉมเรียงบนชั้น
นึกอยากหาที่นั่งอ่านกับพื้นเหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้เธอสวมกระโปรงยีนแต่งตัวตามที่พี่น้ำหวานแนะนำให้ทุกอย่าง ถึงแม้ตั้มจะชมว่าน่ารักแต่เธอกลับรู้สึกขัดเขินไม่เป็นตัวของตัวเองนัก
“แพงจังเลย รอก่อนนะพี่ดุจตะวัน
ได้เงินจากทำงานพิเศษเมื่อไหร่จะมาซื้อไปนอนกอดด้วยทั้งคืนเลย”
โซดาบนพึมพำเบา ๆ
ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เธอยังไม่มีโทรศัพท์มือถือเป็นของส่วนตัว ถึงเบียร์บอกให้รอเงินเดือนออกจะซื้อให้
แม้จะอยากได้มากแค่ไหนแต่เธอก็อดเกรงใจไม่ได้อยู่ดี เย็นนี้พี่ชายให้ไปหาที่ทำงานและรอกลับบ้านพร้อมกัน
บางทีมีขนมอร่อย ๆ หรืออาหารห่อใส่ถุงกลับมากินด้วย โซดาเดินมาตรงเคาน์เตอร์รอรับเป้ที่ฝากไว้
สายตาเธอก็ปะทะกับร่างสูงโปรงที่เริ่มคุ้นตา
‘ผู้ชายที่เจอหน้าตึกบริษัท
R&M บ่อยๆ นิน่า… เขามาทำอะไรแถวนี้…หรือว่าจะตามมา’
โซดาหลบสายตาของเขาวูบคงบังเอิญเสียมากกว่า
ร้านหนังสือใหญ่อย่างนี้ใครจะเข้ามาเลือกหนังสือดีๆ สักเล่มสองเล่มไม่เห็นแปลก เราไม่รู้จักกันเขาจะตามมาทำไม
เด็กสาวรู้สึกใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอกอดกระเป๋าเป้แน่นอย่างไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านี้และรีบออกจากร้านหนังสือตรงดิ่งขึ้นรถเมล์สายที่จะพาเธอมาหาพี่ชายที่ร้านชื่นบุรี เมื่อมาถึงที่หมาย
โซดาเดินหลบเข้าหลังร้าน เธอรู้จักพนักงานที่นี่แต่จำชื่อได้ไม่กี่คน แต่เมื่อพี่ชายเดินออกหาก็เห็นน้องสาวยืนหน้าซีดผิดสังเกต
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ เอ่อ พี่เบียร์มีอะไรให้โซดาช่วยไหม” เธอตอบอย่างตะกุกตะกักและฝืนยิ้มให้เป็นปรกติ
“ไม่หรอก รอตรงนี้แหละ เดี๋ยวจะหาอะไรให้กิน จะอ่านหนังสือหรือทำอะไรค่อยพี่ก่อนก็ได้”
“พี่เบียร์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น