ปฏิบัติการหัวใจคุณผียอดวุ่น
ตอนที่ 5
กำลังอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่างจากเธอ...
“เดี๋ยวแวะไปรับพี่น้ำหวานที่ประตูน้ำก่อนนะ”
“ได้ค่ะ โซดาไม่รีบไปไหน”
“ดีแล้ว แต่พี่บอกไอ้เบียร์ไว้แล้วละว่าจะพาโซดาเที่ยวก่อนเข้าบ้านนะ”
“จริงอ๊ะ จะพาไปไหนเหรอ”
“ก็…ไม่ไปไหนหรอก คือพอดีน้ำหวานเค้ามาซื้อเสื้อผ้าเข้าร้าน
พี่มารับแล้วเดี๋ยวไปส่งที่สะพานพุทธก่อน แล้วพี่ต้องเอารถไปเก็บที่อู่ก่อนนะ”
“แหม..ดีจังเลยเป็นลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถ
อยากขับรถคันไหนก็ได้”
“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกโซดา
อีกหน่อยเราก็จะเข้าใจอะไรมากกว่านี้
ชีวิตคนนะมันยิ่งกว่านิยายเป็นสิบเป็นร้อยเท่านะหนูน้อย”
โซดายิ้มบางๆ
แล้วเสมองภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถเก๋งคันเท่ ขณะที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็ได้ยินเสียงตั้มคุยโทรศัพท์เสียงหวาน
ชายหนุ่มหน้าตี่หันมายิ้มทะเล้นให้น้องสาวเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ
ก่อนที่จะค่อยๆ เลี้ยวรถมาจอดที่ริมถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย โซดาแหงนหน้ามองดูห้างสรรพสินค้าขายส่งเสื้อผ้าชื่อดังย่านประตูน้ำ
“เร็วหน่อยซินายตั้มเดี๋ยวตำรวจก็มาหรอก”
“เร็วแล้วเจ๊น้ำหวาน”
“นิ...อย่ามาเรียกฉันว่าเจ๊นะ”
สาวโซดาเหลียวมองภาพชุลมุนหลังรถ สาวมั่นแต่งตัวเปรี้ยวด้วยเสื้อยืดตัวเล็กสีแดงสดกับกางเกงทรงทหารตัวใหญ่ กำลังเหวี่ยงถุงทะเลสี่ห้าถุงยัดใส่ท้ายรถและถุงใบเล็กใส่เบาะด้านหลังโดยมีคนขับรถหน้าตี่ลงไปช่วยก่อนรีบกระโดดขึ้นรถ
เสียงแตรดังไล่หลังอยู่นานหลายนาที หญิงสาวที่นั่งเบาะหลังไขกระจกลงชะโงกหน้าออกไป
“รู้แล้วพี่...จะรีบไปรับเมียน้อยรึไง”
“เฮ้ย!เจ๊เดี๋ยวมันก็ไล่บี้ตูดรถผมหรอก”
“รถแกที่ไหนละ รีบๆ ออกรถเลย เดี๋ยวตำรวจมาไล่โดนใบสั่งอีกนะ
ฉันไม่ช่วยจ่ายด้วยหรอก”
“อุตส่าห์มารับทั้งที
พูดหวานๆสมชื่อน้ำหวานก็ไม่ได้”
“ช่วยไม่ได้ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้
อ้าวหนูโซดาวันนี้ไปเที่ยวไหนมาเหรอจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ
ไปอบรมเขียนนิยายมาค่ะ” โซดาตอบแล้วยิ้มแหยเหมือนจะเกรงหญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังของรถ
“อ้อ!ที่ค่ายเทป
R&M ใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ในเครือบริษัท
R&Mต่างหากละค่ะ”
“ก็นั้นแหละ ตึกเดียวกันนิ
เป็นไงเจอพี่ปลายศรรึเปล่าได้ขอลายเซ็นไหม”
“เจอค่ะ แต่ไม่ได้ขอลายเซ็น” ‘ไม่ได้ขอคะแต่โดยยัดเหยียดให้’ ประโยคหลังตอบในใจ
แต่...เอ๊ะ! แล้วเผลอเอาหมวกใบนั้นไปทิ้งที่ไหนแล้วหว่า
“โธ่...ทำไมไม่ขอมาละ นี่ๆ
คราวหน้าพี่ฝากเสื้อพี่ไปให้พี่ปลายศรเซ็นให้หน่อยนะ จะได้เอาไปแขวนที่ร้านนะจ๊ะ” คนพูดไม่พูดเปล่ารีบค้นเสื้อยืดออกจากถุงแล้วยื่นส่งให้สาวโซดา
เด็กสาวทำหน้าแหย เพิ่งจะทำหมวกหายไปใบหนึ่ง
แล้วจะยังให้ไปเอาลายเซ็นอีกเหรอ เฮ้อออออ
“พวกบ้าดารา” ชายหนุ่มคนเดียวในรถเอ่ยอย่างประชดประชัน
“แล้วเบอร์โทรสาวพีอาร์กะพริตตี้ที่ให้ขออะได้ม่ะ”
“ไม่ได้ขอคะ”
“ว่าแต่คนอื่น”
หญิงสาวชะโงกหน้าข้ามเบาะรถมาแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ขับรถ
โซดาเผลอหัวเราะออกมา รถฮอนด้าซีวิคก็เคลื่อนฝ่าการจราจรติดขัดมาถึงที่หมายซึ่งเป็นห้องแถวเล็กๆ
ย่านวงเวียนใหญ่ โซดาช่วยขนถุงทะเลที่ใส่เสื้อผ้าเผื่อจะนำไปขายลงจากรถ
ตั้มต้องรีบเอารถกลับไปคืนที่อู่ก่อนจะนานผิดสังเกต
จึงต้องเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อย
“ไม่รีบกลับบ้านใช่ไหมโซดา”
“ค่ะ...พี่ตั้มบอกพี่เบียร์แล้วว่าวันนี้โซดาจะอยู่กับพี่น้ำหวาน”
“ดีจ๊ะ เข้ามาบ้านก่อนนะ พี่ต้องเตรียมของอีกหลายอย่าง”
“ให้โซดาช่วยนะ”
โซดาอาสาด้วยไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ น้ำหวานยิ้มให้แทนคำตอบก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยขนถุงใส่เสื้อผ้าเข้าบ้านพัก
เธอเคยมาที่นี้แค่สามสี่ครั้งตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับเบียร์ แต่เคยไปดูน้ำหวาน
สาวมั่นแห่งแผงเสื้อโอเอซิส ณ สะพานพุทธแค่ครั้งเดียว
“น้ำหวาน”
เป็นเพื่อนกับพี่ชายของเธออายุรุ่นราวคราวเดียวกับ “ตั้ม”
ลูกชายคนเล็กแสนเกเรในสายตาของเจ้าของอู่รถผู้มีเชื้อสายเลือดมังกรจากแผ่นดินใหญ่หญิงสาวเจ้าของบ้านหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
โซดาจึงเดินสำรวจข้าวของในห้องแม้จะรกด้วยเศษผ้าหลากสี
แต่เสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวเหล็กและที่อยู่บนหุ่นดูสวยงามแปลกตากว่าที่โซดาเคยเห็นมา
เบียร์เคยเล่าให้โซดาฟังว่า
น้ำหวานหยุดเรียนหลังจากจบปวส. และมุ่งมั่นเอาดีด้านออกแบบเสื้อผ้า ลงทุนเปิดแผงขายเสื้อผ้าที่สะพานพุทธ
เอาเสื้อยืดสีพื้นธรรมดามาประดับตบแต่งหรือเพ้นท์ลายใหม่จนสวยเท่ห์เด่นกว่าใคร แต่แบบเสื้อที่ตัวเองดีไซด์กลับขายไม่ค่อยจะออกอาจเป็นเพราะ
หลุดโลก อย่างที่ตั้มเคยบอกไว้
“โซดาเอาเสื้อพี่ไปใส่บ้างไหม”
“เอ่อ..เกรงใจจังค่ะ”
โซดาสะดุ้งเมื่อถูกเรียกแบบไม่ตั้งตัว
เธอหันกลับมามองพี่น้ำหวานที่ล้างเครื่องสำอางออกจนหมดเหลือเพียงสีชมพูอ่อนๆ
บนริมฝีปาก น้ำหวานเป็นสาวสวยอายุยี่สิบสองที่มีบุคลิกมาดมั่น ไม่ว่าจะสวมเสื้อผ้าชุดไหนก็ดูดีไปหมด
ผมยาวถึงกลางหลังถูกกัดสีเป็นน้ำตาลประกายทองดัดเป็นลอนเหมือนระลอกคลื่นของน้ำในทะเลดูรับกับผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน
“ทำไมมองพี่อย่างนั้นละหรือว่าเราเป็นทอม”
“บ้าซิพี่น้ำหวาน
โซดายังชอบผู้ชายอยู่นะ” โซดาทำเป็นงอนแต่เพื่อนพี่ชายหัวเราะร่า
“ก็พี่น้ำหวานสวย โซดาอยากสวยเหมือนพี่มั่ง”
เด็กสาวเผลอคิดถึงรอยยิ้มอบอุ่นของนักเขียนในดวงใจ ถ้าเธอสวยหรือน่ารักกว่านี้
เขาต้องหันมามองเธอแน่ๆ
“ใครว่าเราไม่สวยละ
แค่…แต่งตัวไม่เป็นเท่านั้นเอง เอ๊ะ...ถามแบบนี้แอบปิ๊งใครอยู่หรือเปล่า
แบบคนกำลังมีความรัก”
“ไม่ใช่...คือ...โซดาอายนะ
ไปอบรมมารู้สึกว่าตัวเองมอมแมมยังไงไม่รู้แบบ...บอกไม่ถูก มันมีแต่คนหรูๆ ใช้มือถือดีๆ
เสื้อผ้าแพงๆ ขับรถมาเรียนอะไรแบบนั้น”
“ไม่เอาซิ อย่าคิดแบบนั้น” น้ำหวานดึงแขนของโซดามานั่งใกล้ๆ
แล้วลูบผมช้าอย่างอ่อนโยนและเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“สิ่งของภายนอกอย่างนั่นมันก็เครื่องประดับที่ฉาบฉวย
ตัวตนที่ดีงามของเราต่างหากที่จะ เปล่งประกายความเป็นตัวเราออกมา
เพราะฉะนั้นต้องเรามั่นใจและภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นต่างหาก แต่ไม่ต้องห่วงนะ
อยู่กับดีไซด์เนอร์มือหนึ่งแห่งสะพานพุทธเจ้าของแผงเสื้อโอเอซิสสะอย่าง
พี่น้ำหวานคนนี้จะเนรมิตให้หนูโซดาเป็นสาวสวยเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
เด็กสาวยิ้มกว้าง นั้นซินะ สักวันหนึ่งคงมีใครมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอไม่ใช่เพียงแค่เสื้อผ้าเครื่องประดับภายนอก
แต่เป็นตัวเธอที่แท้จริงต่างหาก
แล้วโซดาก็นึกถึงเจ้าของสายตาอาวรณ์หลังแว่นทรงกลมกรอบเงินที่ได้สบตากัน
หรือว่า เขาจะเห็นอะไรบางอย่างในตัวเธอที่พิเศษกว่าคนอื่นนะ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น