เพลิงพิศวาสจอมเถื่อน (ซีรีย์ชุดจอมใจจอมบงการรัก)
บทที่ 6
รินรดาละล้าละลังอยู่บริเวณบขส.ขนาดเล็กของอำเภอหนึ่ง
เธอดูนาฬิกาที่ข้อมือหลายครั้งสลับกับหยิบโทรศัพท์มือถือมาคอยเช็คดูว่าเครื่องดับหรือเปล่า
เธอลงรถทัวร์ตั้งแต่เช้ามืดจนตอนนี้จะแปดโมงเข้าไปแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครมารับเธอตามที่นัดหมายไว้ ถึงจะชอบบรรยากาศชนบทแต่การนั่งรออยู่เกือบสองชั่วโมงแบบนี้ไม่ได้ทำให้เธอซาบซึ้งกับความสดใสตรงหน้า
กระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับสามวัน
โน้ตบุ๊กที่เซฟงานสำหรับติดต่อลูกค้า
หญิงสาวถอนหายใจเมื่อมองไปที่ข้าวของที่ตัวเองหอบมาจากกรุงเทพฯ
นั่งรถทัวร์มาสิบชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย
เมื่อสี่หรือห้าวันก่อนเธอได้รับมอบหมายจากคุณวิทยาให้มาเสนองานให้ลูกค้าที่จังหวัดศรีสะเกษ
“ลูกค้าสนใจส่งสินค้าออกต่างประเทศพร้อมทำสัญญากับสามปี
แต่มีคนมาเสนอหลายเจ้าอยู่เหมือนกัน รินไปคุยกับลูกค้าให้เขาเซ็นสัญญากับเราให้ได้นะ
บริษัทเราจะได้มีเงินมาหมุนจ่ายให้พนักงาน
รินก็รู้ว่าช่วงนี้เราขาดสภาพคล่องอยู่มากทีเดียว”
เหตุผลของคุณวิทยาเป็นเรื่องที่เธอรับได้และเคยทำมาก่อน
แต่เธอไม่เคยเดินทางมาไกลขนาดนี้และ...จะเรียกให้ถูกคือกันดารเสียจนเธอคิดว่า
ตัวเองอาจจะขึ้นรถผิดก็ได้ คุณวิทยาไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนักบอกแค่ให้เธอมาพบลูกค้าที่นี่
เมื่อมาถึงจะมีคนมารับเอง แต่นี่...เงียบจนเธอกังวล พยายามโทรหาคนที่จะมารับหลายครั้งที่ไม่มีคนรับสาย
“เอาไงดีหนอรินรดา
ไม่มีที่อยู่ลูกค้าเสียด้วยซิ
หรือต้องรอให้สักเก้าโมงครึ่งโทรหาพี่ปานค้นที่อยู่หรือเบอร์ติดต่อให้ใหม่”
หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง
เริ่มจะรู้สึกหิวแล้วไง กลิ่นข้าวเหนียวหมูปิ้งลอยมาเตะจมูกนานแล้ว เธอไม่เห็นวี่แววคนจะมารับเสียที ไม่อยากทนรอหิ้วท้องหิวๆ แบบนี้
ร่างเล็กเดินไปที่รถเข็นไม่ไกลนักแล้วโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ที่เก้าอี้นั่งรอรถ
“หมูปิ้งสี่ไม้ ข้าวเหนียวห่อนึงค่ะ”
“มาจากกรุงเทพเหรอแม่หนู” คนขายหมูปิ้งถามด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ” ไม่อยากจะพูดอะไรมาก กลัวน้ำลายในปากจะไหลย้อยออกมาเพราะความหิว
“รอคนมารับอยู่เหรอจ๊ะ”
“ค่ะ” เธอรับถุงหมูปิ้งแล้วยื่นธนบัตรสีแดงส่งให้
“แล้วจะไปที่ไหนละหนู” คนขายส่งเงินทอนให้
“ไร่ฉายฉานค่ะ”
“อ้อ! ไร่ฉายฉานของคุณเพลิง”
“คุณเพลิง?” รินรดาขมวดคิ้วด้วยสงสัย
“ใช่ๆ คุณเพลิงเป็นเจ้าของไร่ฉายฉาน
มีที่ดินเป็นร้อยๆ ไร่เลยล่ะ”
“มีโรงงานน้ำตาลด้วย” เสียงลุงขับสามล้อผสมโรงขึ้นมาด้วย
“แกมีโรงแรมด้วยนะ
โรงแรมริมแม่น้ำด้วย”
“ใช่เหรอ
เขาว่าแกมีรีสอร์ทที่ลาวด้วยนะ”
รินรดาอ้าปากค้าง เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมาพบคนดังในอำเภอเข้าให้แล้ว
หญิงสาวหมุนตัวเดินออกมาทิ้งเสียงสนทนาถึงคุณเพลิงไว้ด้านหลัง ด้วยความหิวจึงหยิบหมูปิ้งขึ้นมากัดกินตามด้วยข้าวเหนียว
แล้วสายตาเธอก็มองเห็นรถกระบะสีน้ำเงินเข้มปาดเข้ามาจอดใกล้ๆ
ตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ก้าวลงมายืนเหลียวซ้ายแลขวา เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีน้ำตาลเข้มกับกางเกงยีนเข่าขาด
ผมยาวมัดเป็นหางเล็กๆ ที่ท้ายทอยและหนวดเคราที่รุงรังเหมือนลิงตัวใหญ่ยักษ์ หญิงสาวกลั้นเสียงหัวเราะกับความคิดตัวเองแล้วเดินเร็วๆ
ไปที่กระเป๋าตัวเอง
“คุณมาจากไร่ฉายฉานหรือเปล่าคะ”
ชายหนุ่มสวมแว่นตากันแดดสีดำอันใหญ่มองตามเสียงหวานที่ทักจากด้านหลัง
เขาพยักหน้าและขมวดคิ้วราวกับไม่แน่ใจว่าคนๆ นี้คือคนที่เขาต้องมารับ
หรือจะเรียกให้ถูกต้องให้ลูกน้องมารับแต่เมื่อคืนพวกมันจัดหนักเพราะถูกหวยสองตัวเข้าไป
ไม่มีใครลุกขึ้นไหวเพราะฤทธิ์เหล้าต้มดีกรีแรงได้ เขาเองก็ยังไม่ได้นอนเต็มตื่นด้วยซ้ำแต่เมื่อนึกได้ก็รีบขับรถออกมาทันที เขาจ้องมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
หญิงสาวร่างเล็กกะทัดรัด
สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยสูทแบบผู้หญิงสีดำและกางเกงผ้าสีเดียวกับสูทตัวนอก
เค้าโครงหน้าดูสวยแต่ไม่แต่งหน้าเลยดูซีดเซียวหรือไม่ก็เพราะเพิ่งลงมาจากรถทัวร์
“เอ่อ...ฉันชื่อรินรดาตัวแทนบริษัทเพชรประกายค่ะ” รินรดายิ้มเขินที่ตัวเองกำลังยืนกินหมูปิ้งอยู่
“รินรดา?” ชายหนุ่มทวนชื่อที่ได้ยิน จริงๆ
เขาแทบไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนที่มาชื่ออะไร “ลูกสาวคุณวิทยานะเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
รินรดาตอบอย่างรวดเร็วแล้วก้มลงถือกระเป๋าเสื้อผ้าของตนเอง
ส่วนกระเป๋าโน้ตบุ๊กนั้นเธอคล้องมันที่ไหล่ซ้ายอยู่นานจนตัวแทบจะเอียงอยู่แล้ว
“ขึ้นรถ”
ชายหนุ่มพยักเพยิดให้หญิงสาวเดินตามมาที่รถโดยไม่น้ำใจจะช่วยเธอยกกระเป๋าเดินทาง รินรดาทำได้แต่วิ่งตามเขา ที่ข้างรถมีสติกเกอร์ขนาดใหญ่ติดโลโก้ไร่ฉายฉานทำให้เธอมั่นใจว่าเขาคือคนที่จะมารับเธอ
เธอเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นท้ายรถอย่างลำบาก มีกระสอบปุ๋ยอยู่หลายกระสอบด้านหลัง
หญิงสาวไม่มีเวลาจัดให้กระเป๋าตัวเองเข้าทีก็ต้องรีบปีนขึ้นรถนั่งด้านหน้าข้างคนขับที่สตาร์ทรถเหมือนพร้อมจะไปเต็มที่
เพียงเธอปิดประตูรถ ชายหนุ่มก็พารถพุ่งออกไปทันที รินรดาแทบจะหน้าทิ่มแต่ยังพอจะใช้มือยันหน้ารถได้ทัน
เธอหันไปอยากจะต่อว่าแต่พอเห็นเสี้ยวหน้าดุดันของคนขับรถก็ทำให้เธอหุบปากลงทันทีตามประสาคนไม่ค่อยมีปากมีเสียง เขาไม่ถามอะไรเธออีก รินรดาเลยนั่งกินหมูปิ้งในรถต่อไปเงียบๆ
‘ไปอดยากมาจากไหน’
เพราะสวมแว่นตากันแดดอันใหญ่ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาชำเลืองมองอยู่
ชายหนุ่มกว่าจะได้เจอหน้าสวยๆ หุ่นดินระเบิดแบบที่เคยเห็นในเฟซบุ๊คเสียอีก นี่อะไรกัน?
เด็กกะโปโลคนนี้เป็นใครกัน?
คุณวิทยาต้องเล่นตลกอะไรแน่ๆ เขาบอกให้ส่ง ‘ลูกสาว’
ไม่ใช่ ‘คนรับใช้’
มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแบบนี้ แล้วเขาก็หัวเราะในลำคอขึ้นมา
เธอก็ตอบได้รวดเร็วแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำแต่พ่อแบบไหนกันเล่าที่ยอมขายลูกกินล่ะ?
นี่ต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ แต่ตอนที่เขาถามว่าเธอเป็นลูกสาวคุณวิทยาหรือเปล่า ลองดูก่อนละกันว่าจะมาไม้ไหน
รถกระบะขับกระชากตามอารมณ์ของคนขับโดยไม่สนใจว่าอีกคนกำลังกินข้าวเช้าอยู่ด้วย
รินรดาสะอึกทันทีที่ข้าวเหนียวคำสุดท้ายลงคอ เธอมองซ้ายมองขวาหาน้ำดื่ม เธอเหลียวมองไปด้านหลังเพราะน้ำขวดเล็กของเธออยู่ในกระเป๋าเดินทาง
อาการสะอึกของเธอเรียกสายตาของคนขับรถหน้าโหด
“มีน้ำอยู่เบาะหลัง เอื้อมไปหยิบซิ”
“ค่ะ”
รินรดาเอี้ยวตัวไปที่เบาะด้านหลังแต่ขยับตัวไม่ถนัดเพราะติดเข็มขัดนิรภัย
เธอจึงปลดมันออกแล้วขยับตัวข้ามเกียร์ไปหยิบขวดน้ำดื่ม เป็นจังหวะเดียวกับมีมอเตอร์ไซค์ออกมากจากซอยแล้วปาดหน้ารถกระบะกะทันหันทำให้ชายหนุ่มต้องหักพวกมาลัยรถหลบ
ร่างเล็กที่กำลังเอื้อมไปหยิบขวดน้ำถึงกับเสียหลักกลิ้งไปอยู่ที่เบาะด้านหลังรถ โชคดีที่เป็นรถกระบะสองตอนที่ตอนหลังค่อนข้างกว้างทำให้เธอไม่ไปกระแทกกับกระจกรถ
“ขับรถดีๆ หน่อยซิคุณ”
“บอกผมทำไม บอกไอ้มอ’ไซค์คันนั้นซิ”
เขาบุ้ยปากเมื่อแซงมอเตอร์ไซค์เจ้าปัญหาที่มีหนุ่มวัยรุ่นเป็นคนขับ “ขับรถเหมือนเมายาดอง”
“เช้าแบบนี้ใครจะเมายาดองเหล้าได้” รินรดาบ่นอุบอิบแล้วเปิดขวดน้ำและเพราะไม่มีหลอดสำหรับดูดน้ำเธอเลยต้องยกดื่ม
ชายหนุ่มมองจากกระจกส่องหลังแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก แสร้งทำเป็นเบรกรถกะทันหันทำให้หญิงสาวสำลักน้ำจนเสื้อของเธอเปียก
“นี่คุณ! คราวนี้อะไรอีกละ”
“ตัวแลนมันวิ่งตัดหน้ารถนะ คุณจะให้ขับรถทับมันเลยหรือไง”
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ นี่ไงละนิสัยคุณหนูเอาแต่ใจตัวเอง “รู้จักไหมตัวแลน”
รินรดาได้แต่ถอนหายใจหนักๆ เธอเตรียมตัวและข้อมูลมารับศึกหนักทางการค้าแต่เจอคนขับรถกวนประสาทก็หัวเสียเหมือนกัน
“เอ้า!
เสร็จแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมซิคุณ ผมไม่ใช่คนขับรถให้คุณนะ”.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น