ปฏิบัติการหัวใจคุณผียอดวุ่น
ตอนที่ 4
โซดากระโดดลงจากรถเวสป้าด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
ก่อนส่งหมวกกันน๊อคคือให้สารถีรุ่นพี่ที่อาสาขับรถส่วนตัวมาส่งถึงหน้าบริษัท R&M
เด็กสาวเสยผมยาวประบ่าให้เข้าที่เข้าทางก่อนใช้หนังยางสีดำที่รัดข้อมืออยู่ขึ้นรวบและมัดผมเป็นหางม้า
“ตอนเย็นพี่มารับ
ถ้าเลิกเร็วก็โทรเข้ามือถือพี่
เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวสะพานพุทธ” ตั้มเอ่ยแล้วยิ้มให้จนตาหยี
“แหม...จะไปหาพี่น้ำหวานก็บอกมาเถอะ
ไม่ต้องเอาโซดาไปอ้าง”
“ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ทันรีบๆ
ไปเลยเดี๋ยวไม่ทัน”
“ครับผม!” โซดาทำท่าเลียนแบบทหารรับคำสั่ง
ก่อนหมุนตัวจะเดินเข้าไปในตึกแต่กระเป๋าเป้ก็ถูกดึงไว้ก่อนจนเจ้าตัวต้องหันกลับมาอีกที
“มีอะไรอีกอะพี่ตั้ม”
“ขอเบอร์พีอาร์สวยๆ หรือพริ้ตตี้น่ารักๆ
มาฝากมั้งนะ”
“อะไรกันอยากได้ก็ไปขอเองเด่ะ แหวะ!
ไปละ”
ตั้มโยกหัวน้องสาวเพื่อนอย่างเอ็นดู โซดายกมือยกไม้ปัดป้องไม่อยากให้ผมยุ่งมากไปกว่านี้
แต่เหมือนมีอะไรบางสิ่งเรียกสายตาของเธอให้หันไปมองที่ฝั่งตรงข้าม ใต้เงาร่มไม้ใหญ่ตรงนั้น
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน แว่นตาทรงกลมกรอบเงินยืนอยู่ที่เดิมและสายตาคู่นั้น
กำลังจับจ้องมาตรงจุดที่เธอยืนอยู่
เอ๊ะ! เสื้อตัวเดิมกับเมื่อวานนี่น่า...หรือเขาจะมีเสื้อแบบเดียวกันเป็นโหล
“ไปได้แล้ว ตอนเย็นพี่มารับ”
โซดาสะดุ้งแม้จะถูกผลักไหล่เบาๆ เธอพยักหน้าหงึกงักหันไปมองชายหนุ่มแปลกหน้าแวบหนึ่งก่อนที่จะพาร่างตนเองเข้าไปในตึกบริษัท
R&M ขณะยืนรอลิฟต์เพื่อไปห้องอบรม เธอก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งเข้ามายืนข้างหลัง
กลิ่นโคโลจญ์ผู้ชายหอมอ่อนๆ ทำให้เธอหันไปมองอย่างไม่ตั้งใจ
“พี่ปกรณ์”
“อ้าว...น้องโซดาใช่ไหม มาเร็วจังนะค่ะ”
“ค่ะ...พี่ปกรณ์ก็เหมือนกัน”
โซดาไม่ได้พูดอะไรอย่างที่ใจต้องการนัก
แค่ได้ยืนข้างๆ แบบนี้หัวใจก็เต้นตูมตาม ปกรณ์เป็นหนุ่มมาดโรแมนติก
ผมยาวสลวยประบ่าชอบสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีด้ายดิบดูเป็นศิลปินโดยแท้ พูดจากับผู้หญิงก็คะ-ขาหวาน แค่นี้โซดาก็แทบเก็บอาการไม่อยู่แล้ว
ประตูลิฟต์เปิดออก โซดาก้าวเท้าเข้าไปก่อนตามด้วยปกรณ์และคนที่เธอไม่รู้จักอีกสองคน
ขณะประตูกำลังจะปิด ร่างบอบบางของเด็กสาวผู้มีใบหน้าซีดเซียวราวคนป่วยก็ถือกล่องไวโอลินเข้ามาด้วยอีกคน
“แป้งร่ำมาเรียนดนตรีเหรอคะ” ปกรณ์เอ่ยถามพลางยื่นมือไปฉวยกล่องไวโอลินมาช่วยถืออย่างสนิทสนม
“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มบางๆ
และหว่านยิ้มหวานมาทางโซดาที่ยืนอยู่ด้านข้างปกรณ์
“แป้งร่ำหน้าซีดๆ นะคะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องเรียนดนตรีดีกว่านะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งไปเองได้ แป้งไม่ได้ป่วยอะไร”
“อย่าเลย ให้พี่ไปส่งดีกว่า ขืนเป็นอะไรไปพี่จะยิ่งโทษตัวเองมากขึ้นนะ”
“ค่ะ ก็ได้”
ไฟกระพริบที่ชั้นห้า ปกรณ์ก็พาเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับกับโซดาเดินหายไป
เธอได้แต่ยืนซื่ออยู่ในนั้นเพียงลำพังรอคอยจนลิฟต์เคลื่อนที่ไปชั้นสิบเอ็ด
ก่อนเข้าห้องรับรองเธอแอบแว้บเข้าไปยืนจ้องหน้าตัวเองในกระจกทั้งผมเผ้าเสื้อผ้าดูมอมแมมไม่น่ารัก
ช่างต่างจากผู้หญิงคนเมื่อครู่ดูเป็นคุณหนูเรียบร้อยน่ารักน่าทะนุถนอม
“ช่างเถอะ
เกิดมาสวยได้แค่ไหนก็แค่นั้นแหละนะ โซดาเอ๊ย!!!”
โซดายิ้มกว้างให้กับตัวเองในกระจก เรียกความมั่นใจก่อนเข้าไปนั่งรอที่ห้องอบรม
จะว่าไปแล้วในคอร์สนี้สมาชิกสิบหกชีวิต มีเธอเท่านั้นที่อายุน้อยที่สุดคือเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น
และสูงสุดคือคุณลุงวัยสี่สิบแปดแต่งตัวภูมิฐาน โซดาแอบได้ยินคนในกลุ่มคุยกันตอนพักทานของว่าง
เดี๋ยวนี้เป็นเทรนใหม่ ใครๆ
ก็มีพ๊อกเก็ตบุ๊คของตัวเองเขียนเองพิมพ์เองก็ได้ใช้เงินไม่กี่หมื่น เปิดตัวหรูหราจ้างบริษัทออกาไนเซอร์มาดีไซด์งานให้ก็ได้
ได้ยินเพียงแค่นี้โซดาก็มึนตึบ แต่เพราะมีปกรณ์ที่ค่อยให้คำแนะนำในการเขียน
วางโครงเรื่องหลักโครงเรื่องรอง การสร้างนิสัยตัวละคร โอ๊ย! แค่นี้โซดาก็นั่งปลื้มจนตาหวานฉ่ำแล้ว
ไม่สนใจแม้กระทั้งว่า ปลายศรจะมาบอกกลเม็ดในการเขียนให้รุ่งได้เพียงข้ามวัน
การอบรมดำเนินไปจวบจนถึงเวลาเลิก
แต่โซดากลับถูกเรียกให้นั่งรอจนคนอื่นกลับไปหมดแล้ว
ร่างสูงโปร่งเจ้าของผมยาวประบ่าก็เดินมาพร้อมรอยยิ้มที่ทำเอาโซดาแทบจะกรี๊ด!
‘โอ๊ย!
อยากจะเป็นลม ผู้ชายอะไรยิ้มหวานชะมัด’
“รอนานไหมคะ น้องโซดา”
“ไม่นานเลยคะ” ‘รอไปถึงพรุ่งนี้
หนูก็รอได้เพื่อพี่ดุจตะวันของหนู’ ประโยคหลังได้แต่พูดในใจ ก่อนจะเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตานักเขียนสุดปลื้มของโซดา
“คือ พี่ดูจากงานที่ผ่านๆ
มาของน้องโซดาแล้ว น้องเป็นคนที่มีแววที่สุดในกลุ่ม” ปกรณ์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“แต่การจะสร้างนักเขียนขึ้นมาให้โดดเด่นได้ไม่ใช่แค่เขียนหนังสือดีเท่านั้น...น้องโซดาต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีด้วย”
ถึงตอนนี้ โซดาแทบกลั้นใจรอฟังประโยคต่อไป และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้จึงแกล้งดื่มน้ำทวงเวลาไว้
ก่อนจะเอ่ยต่อ
“น้องโซดาลองเขียนดูก่อนไหมคะ”
“ลองเขียน ยังไงคะ” หว่า!
เพิ่งเคยได้ยิน ในห้องอบรมไม่เห็นมีพูดถึง
โซดาได้แต่ขมวดคิ้วงงๆ
“ก็เขียนตามที่พี่แนะนำไงคะ เหมือนทำอาหารตามสั่ง ทำตามใจลูกค้า น้องโซดาก็เขียนนิยามตามที่พี่กำหนด
เราต้องดูเรื่องการตลาดเป็นหลัก โซดาเขียนไปสักพักถ้าชื่อติด มีแฟนคลับเมื่อไหร่ ที่นี่โซดาอยากเขียนอะไรก็ได้
แต่ตอนนี้เขียนตามสั่ง ทำตามที่พี่บอกก่อน ดีไหมคะ
พี่ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเขียนแถวหน้านะคะ”
โซดาพยักหน้ารับอย่างไม่รู้ตัว
ไม่รู้เพราะว่าเอาแต่มองหน้าปกรณ์
หรือเพราะน้ำเสียงรื่นหูฟังแล้วสบายใจรู้สึกถึงความจริงใจหรือเปล่านะ!
“ดีค่ะ
งั้นเรามาเริ่มงานชิ้นแรกเลยดีกว่านะคะ”
ปกรณ์ยิ้มละมุมก่อนเปิดแฟ้มเอกสารและอธิบายงานอย่างละเอียดให้โซดาฟัง
หลังจากโทรศัพท์หาตั้มแล้ว โซดาออกมานั่งตากอากาศอยู่นอกตึกของบริษัท เธอไม่ค่อยถูกกับอากาศเย็นๆ
จากเครื่องปรับอากาศเท่าไหร่นัก เธอกอดแฟ้มงานรายละเอียดของงานชิ้นแรกไว้แน่นแนบอก
นั่งที่โต๊ะม้าหินใกล้จุดนัดพบและอ่านสมุดบันทึกที่จดรายละเอียดของงานวันนี้ รู้สึกเหมือนมีประกายไฟในตัวเองยังไงไม่รู้
อยากกลับรีบกลับบ้านไปทำงานให้ปกรณ์
พี่เขาจะปลื้มแค่ไหนนะ
ที่รู้ว่าโซดาทุมเทขนาดนี้
สายลมก็พัดมาวูบหนึ่งหอบเอากระดาษจดงานของสาวโซดาปลิวว่อนในอากาศ
เธอรีบลุกขึ้นตามเก็บกระดาษจดงานจนไม่ทันดูว่ากระดาษแผ่นนั้นปลิวไปที่ถนนหน้าตึก
เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเก๋งยุโรปคันหรูเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็วพอดี เสียงเบรกดังลั่นจนยามที่อยู่บริเวณนั้นรีบวิ่งมาดู
รถยนต์ยุโรปคันใหญ่จอดนิ่งสนิท
โซดาได้แต่ยืนงงอยู่กลางถนน
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าค่ะ”
โซดาจำใบหน้าอ่อนหวานแต่ซีดเซียวของอีกฝ่ายได้ โดยเฉพาะเสียงพี่ปกรณ์ที่เรียกเธอว่า “แป้งร่ำ”
เด็กสาวในรถยิ้มให้อย่างอ่านหวาน โซดาถอยหลบขึ้นทางเท้าให้รถยุโรปคันหรูแล่นผ่านไป
‘เฮ้อ..ไม่มีโอกาสได้นั่งแล้วยังจะเกือบโดนรถทับตายอีกแนะเรา’ โซดาพึมพำกับตัวเองเบา
ๆ เดินกลับมาที่โต๊ะม้าหิน
แต่สายตากลับสะดุดกับชายร่างสูงโปร่งผู้สวมแว่นตาทรงกลมกรอบเงิน เขากำลังเดินตรงเข้ามาใกล้
จนหยุดยืนเผชิญหน้ากันห่างเพียงแค่มือเอื้อม ยิ่งทำให้โซดารู้สึกว่าตัวเธอเองนั้นตัวเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับอีกฝ่ายยามที่มองอยู่อีกฝ่ายของถนน
“โซดาจ๋า พี่ตั้มสุดหล่อมารับแล้วจ๊ะ”
โซดาหันไปตามเสียงเรียก
คราวนี้ตั้มเอารถฮอนด้า ซีวิคสีน้ำเงินน้ำทะเลมารับ โซดาหันไปยิ้มแหย นึก
ไปก็กลัวเจ้าของรถจะมาทวง อย่างที่พี่ชายเคยเล่าให้ฟังว่าตั้มชอบเอารถลูกค้าหรูๆ
ที่เข้าอู่แอบขับ ซิ่งอวดสาวยามค่ำคืน
“ไปก่อนนะคะ”
โซดาหันไปเอ่ยลาเบาๆ
ทั้งที่ไม่รู้ว่าชายแปลกหน้าเข้ามามีจุดประสงค์อะไร
เธอรีบวิ่งไปฉวยเป้แล้วรีบวิ่งขึ้นรถที่ไม่รู้จักเจ้าของ ตั้มเสยผมสั้นๆ สีน้ำน้ำตาลแดงพยายามจับแต่งให้ผมเป็นทรงแมวตะกุก
โซดาพยายามเพ่งสายตามองจากกระจกรถ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าสายตาหลังแว่นตาทรงกลมกรอบเงินนั่น.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น