บทที่ 1
แท็กซี่ยังไม่ทันจอดเทียบฟุตปาธหน้าสถานีหัวลำโพงได้สนิทดีนัก
ร่างของหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบสองปีก็ถลาออกจากรถทันทีโดยไม่รอรับเงินถอนจากคนขับรถ
เธอวิ่งฝ่าฝูงชนมากมายที่ล้วนต่างที่มาและต่างจุดหมายจะไปจนไปถึงห้องพิเศษที่มีเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟโทรศัพท์ติดต่อเธอไว้เมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
“พี่ตามาแล้ว!”
“ข้าวซอย!”
โยษิตาเผลอตะโกนเรียกชื่อเด็กหญิงวัยสิบขวบที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีฟ้าหม่น
เด็กน้อยจอมยุ่งกระโดดลงจากเก้าอี้เข้ามาสวมกอดญาติผู้พี่อย่างคิดถึง เจ้าหน้าที่กระแอมไอสองสามครั้งก่อนเรียกโยษิตาไปตักเตือนที่ปล่อยให้เด็กหญิงวัยสิบขวบเดินทางมาคนเดียวเพียงลำพัง
โดยการแอบซ่อนตัวในห้องน้ำของรถไฟตั้งแต่ลำปางจนมาถึงหัวลำโพง
“ค่ะ…ค่ะ…จะไม่ไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน”
ข้าวซอยเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวตัดกับสีผิวที่ดำเป็นเหนี่ยง ช่างผิดกับคำพูดที่ว่าสาวเหนือจะผิวขาวสวย เมื่อเคลียร์ปัญหากับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยโยษิตาก็ได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องโครกครากจนเจ้าน้องสาวตัวแสบหัวเราะ
“พี่ตาเลี้ยงอะไรไว้ในท้องเหรอคะ”
“สัตว์ประหลาดมั้ง!”
หญิงสาวหันไปแยกเขี้ยวใส่ แต่ดูเหมือนเด็กจอมซนจะไร้ความกลัวเกรง ก็นั่นซินะ! ถ้าขี้ขลาดคงไม่กล้าหนีออกจากบ้านมาถึงนี่ได้
โยษิตาได้แต่ถอนหายใจก่อนเดินจูงมือหลานเข้าไปหาอะไรกินนอกสถานีรถไฟ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอกำลังช่วยคุณยายละเอียดกวาดหยากไย่ตามมุมบ้านแล้วจู่ๆ
ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟ ให้มารับเด็กหญิงข้าวซอยที่แอบขึ้นรถไฟมากรุงเทพฯเพียงลำพัง
เธอต้องตาลีตาเหลือกออกจากบ้านมาทั้งสภาพมอมแมมแบบนี้เพราะความเป็นห่วงน้องสาวตัวซน
แต่พอมาเห็นแววทโมนเหมือนลูกลิงน้อยและวีรกรรมที่
สร้างขึ้นเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ
“พี่ตาโกรธหนูหรือจ๊ะ” ข้าวซอยถามเบาๆ
แววตาสำนึกผิด
“ไม่ได้โกรธแต่พี่ตาเป็นห่วง” โยษิตาใจอ่อนกับแววตาคู่นี้เสมอ
เธอมองดูจานข้าวหมูแดงที่ว่างเปล่า เมื่อสัตว์ประหลาดในท้องไม่ส่งเสียงรบกวน เธอก็จ่ายเงินค่าอาหาร
“เรารีบกลับบ้านกันเถอะป่านนี้คุณยายคงรอแย่แล้ว”
“คุณยายจะโกรธหนูไหมคะพี่ตา” แววตาของเด็กหญิงวัยสิบขวบที่ดูเศร้าหม่นกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน
‘แววตาแบบนี้ใครจะโกรธได้ลงนะ’
หญิงสาวผ่อนลมหายใจเบาๆ
แค่เห็นว่าน้องสาวตัวน้อยไม่มีร่องรอยบุบสลายตรงไหนก็โล่งใจแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกสาวของ ‘ป้าอำภา’ ผู้เป็นพี่สาวของมารดาเธอหนีออกจากบ้าน มันกี่ครั้งกี่คราแล้วเธอก็ลืมนับมันไปแล้วข้าวซอยสะพายเป้สีชมพูขะมุกขะมอมเดินตามโยษิตาขึ้นรถแท็กซี่
ระหว่างทางเด็กน้อยมองทิวทัศน์รอบกายอย่างสนุกสนานไม่ได้มีแววสำนึกผิดเหลืออยู่เลย
จนโยษิตาชักไม่แน่ใจว่าแววตาเศร้าๆ เมื่อครู่ของแท้หรือเทียม!
เพียงทั้งคู่ก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ หญิงชราวัยหกสิบเจ็ดแทบจะถลาอ้าแขนรับขวัญหลานตัวน้อย
บ้านไม้สองชั้นหลังเล็กอยู่เกือบท้ายซอยชุมชนสวนขวัญ ก็มีสมาชิกเพิ่มเป็นเด็กหญิงที่แสนจะกล้าหาญหนีออกจากบ้านขึ้นรถไฟมาคนเดียวจากลำปางจนถึงหัวลำโพงได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่รถไฟที่ต้องโทรศัพท์มาหา
‘โยษิตา’ พี่สาวของเด็กหญิงวัยสิบขวบให้มารับตัวหนูน้อยเจ้าปัญหา
หญิงสาวรู้สึกเกียจคร้านเกินกว่าจะหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดบ้านต่อ ไม่รู้ว่าเป็นลางบอกเหตุหรืออย่างไรที่จู่ๆ
คุณยายก็นึกอยากทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ พอดีวันนี้เธอไม่ต้องไปทำงานพิเศษจึงได้อยู่ช่วยกวาดหยากไย่แต่ยังไม่ทันเสร็จดีบ้านหลังน้อยก็ได้ต้อนรับสมาชิกเพิ่ม
‘เด็กหญิงข้าวซอย’ กำลังเอร็ดอร่อยกับข้าวต้มผัดฝีมือคุณยายละเอียด
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็กินข้าวหมูแดงจานโตไปแล้ว โยษิตาเดินเลี่ยงเข้ามาโทรศัพท์ในบ้านต่อสายหาแม่ของข้าวซอย นานหลายนาทีกว่าจะมีคนรับสาย
“คุณป้าอำภาหรือคะ”
“เออ บ้านนี่ก็มีแต่ฉันนี่แหละ จะมาขายอะไร ประกันไม่ทำหรอกนะ
ฉันไม่ยอมให้พวกแกเอาเงินฉันไปหมุนออกดอกกินสบายๆ หรอก”
“เอ่อ...คุณป้าคะ หนูตาเองค่ะ โยษิตา”
“อ้าว! ยัยตาเหรอ แม่เป็นไร ตอนนี้ฉันไม่มีเงินหรอกนะ” โยษิตาอยากจะกรี๊ดใส่หูโทรศัพท์หรือไม่ก็ขว้างใส่ข้างฝาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ไม่มีสักประโยคที่จะถามหาลูกสาวตัวเองเลยหรือว่าป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าข้าวซอยหายออกจากบ้านไป
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกค่ะ” เธอพยายามกัดฟันทำใจเย็น
ถ้าไม่คิดว่าป้าอำภาคือพี่สาวของแม่ที่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว เธอคงว๊ากกลับไปบ้างแล้วล่ะ
“ข้าวซอยมาอยู่ที่บ้านตาแล้วค่ะ”
“เหรอ มันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ แกมารับมันเหรอ”
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวอึ้ง แม่แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ “ข้าวซอยหนีออกจากบ้านขึ้นรถไฟจากลำปางมาหัวลำโพงคะ
ตาเพิ่งไปรับมาจากสถานีรถไฟ ตอนนี้อยู่บ้านกับยายปลอดภัยดีค่ะ”
“ก็ดีแล้ว
ฝากดูมันหน่อยละกัน แค่นี้ก่อนนะ
ฉันยุ่ง”
ยังไม่ทันที่โยษิตาจะพูดอะไรต่อ โทรศัพท์ก็โดนตัดสัญญาณไปแล้ว หญิงสาวถือหูโทรศัพท์ค้าง หงุดหงิดหัวเสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และเป็นดังที่คุณยายคาดคิดไว้ว่าจะได้ยินน้ำเสียงเย็นชาจากปลายทาง
จนอดนึกน้อยใจแทนไม่ได้ .
|
ทรายพราวแสง
|
เพลงมีนา |
www.mebmarket.com
|
ทิฐิที่มีทำให้สองหัวใจเดินทางสวนกันทั้งที่พร่ำเพรียกอย่างโหยหา
แต่เมื่อรู้ตัวเขาก็ยอมรับจากก้นบึ้งของหัวใจว่าหากครั้งนี้เขาปล่อยมือคู่นี้ไปหัวใจเขาคง...
|
Get it now
| |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น