ปรารถนาแห่งฟาโรห์ (ซีรีย์ชุดบัลลังก์ไอยคุปต์)
บทที่ 1
เสียงสิงโตขู่คำรามทำให้ชายหนุ่มเหลียวมองต้นเสียง
ร่างสูงของบุรุษวันสิบแปดปีหยัดกายขึ้นจากการนอนเอกเขนกบนเตียงนอนยาวใหญ่ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์
ดวงตาสีดำนุ่มลึกใบหน้าเรียบตึงไร้อารมณ์ใดๆ เครื่องประดับผมทำจากทองคำบริสุทธิ์บ่งบอกถึงฐานะที่ส่งสูง
“เจ้าชายเนเฟอร์คาเร” เสียงสั่นๆ ของนายทหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างขลาดกลัวเจ้าสิงโตตัวใหญ่ยักษ์ที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้เป็นนาย
“นาฟ...กลับมานี่” เนเฟอร์คาเรสั่งราวกับสิงโตเป็นลูกแมวน้อยๆที่แสนเชื่อง
เมื่อสิงโตคู่ใจเดินอ้อมมาอยู่ด้านหลังแล้วนายทหารจึงรายงาน
“องค์ฟาโรห์รับสั่งเรียกหาพะยะคะ”
เนเฟอร์คาเรพยักพระพักตร์เล็กน้อยเป็นการรับรู้
เมื่อนายทหารผู้นำคำสั่งมาถอยหลังจากไปแล้ว องค์รัชทายาทดีดนิ้วเรียกองครักษ์
เพียงชั่วกะพริบตาชายหนุ่มร่างใหญ่ก็เข้ามาทันที
“โมตูพานาฟไปพักก่อน” เนเฟอร์คาเรออกคำสั่งแล้วเดินนำหน้าอย่างไม่รีบร้อน
“จะให้กระหม่อมตามเสด็จไหมพะยะคะ”
โมตูเอ่ยถามขณะพาสิงโตหนุ่มเดินตามเพื่อไปที่พักนอกจากองค์เนเฟอร์คาเรแล้ว
มีเพียงโมตูเท่านั้นที่สามารถใกล้ชิด ‘นาฟ’ ได้มากขนาดนี้
ทว่าคนเดียวที่นาฟให้ความซื่อสัตย์คือองค์รัชทายาทแห่งแผ่นดินไอยคุปต์เท่านั้น
“ไม่ต้องหรอก” ชายหนุ่มเสยผมยาวดำขลับที่ยาวถึงไหล่ของตนเอง “ข้ากับเจ้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องใด”
โมตูก้มรับคำสั่งของเจ้าชายที่เขาเฝ้าถวายการรับใช้มาตั้งแต่จำความได้ บัดนี้เขากลายเป็นหนุ่มฉกรรจ์อายุยี่สิบเอ็ดปีที่ฝึกฝนการต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์รัชทายาท นอกจากนั้นยังต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของเจ้าชายเนเฟอร์คาเรอีกด้วย
“มาซินาฟ...เจ้าก็อย่าทำให้ข้าเหนื่อยนักเลย”
องครักษ์หนุ่มเอ่ยบอกกับสิงโตวัยสี่ขวบที่สะบัดโซ่ตรวนไปมาอย่างหงุดหงิด
ทว่ามันก็จำใจยอมเดินตามกลับไปที่พักของตนเองราวกับเข้าใจในสิ่งที่โมตูพูด เขาได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
นอกจากจะเป็นองครักษ์ข้างกายเจ้าชายแล้วยังเป็นคนเลี้ยงสัตว์อีกด้วย แต่คาดว่าชีวิตเขานับจากนี้ต่อไปคงมีอะไรวุ่นๆ
อีกเยอะ
ในพระราชตำหนักของฟาโรห์เตติมีหมอหลวงจากทั่วทุกแขนงเข้ามาถวายการรักษาพระประชวรขององค์ฟาโรห์เตติ
โดยมีพระมเหสีคูอิและเจ้าชายอูเซอร์คาเรคอยดูพระอาการอย่างใกล้ชิด
“พวกเจ้าเป็นหมอหลวงประสาอะไรทำไมพระอาการของฟาโรห์ยังไม่ดีขึ้นอีก” พระนางคูอิเกรี้ยวกราดใส่ด้วยเสียงที่แหลมสูงทำเอาบรรดาแพทย์หลวงสะดุ้งโหย่งกันเป็นทิวแถว
“ฟาโรห์ทรงติดโรคประหลาดมาจากที่ไปตรวจเยี่ยมการสร้างมหาวิหารที่เมืองซัคคาราพะยะคะ” คันเชนแพทย์หลวงรายงาน
“ตอนนี้ที่เมืองซัคคาราก็มีผู้ป่วยด้วยโรคประหลาดหลายสิบคนแล้วพะยะคะ”
“คนพวกนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง! แต่พวกเจ้าต้องรักษาองค์ฟาโรห์ให้ได้!
ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าก็อย่าคิดว่าจะมีลมหายใจอยู่ได้!”
“จะกล่าวเช่นนั้นก็หาเป็นเรื่องที่ควรไม่ พระมเหสีคูอิ” ทุกสายตาจับจ้องมายังวรกายสง่างามที่ก้าวเข้ามาในห้องบรรทมของฟาโรห์เตติ
เจ้าชายเนเฟอร์คาเรแย้มสรวลน้อยๆ ก่อนจะถวายการเคารพพระบิดาแล้วเข้าไปดูพระอาการ โดยไม่ปรายตามองเจ้าชายอูเซอร์คาเรผู้เป็นอนุชาต่างมารดาเลยสักนิด
กิริยายโสโอหังของเนเฟอร์คาเรทำให้อูเซอร์คาเรเผลอขบฟันแน่นจนเป็นสันนูน
แต่พระหัตถ์ของพระมารดาแตะหลังมือเบาๆ เป็นเชิงเตือน ทำให้เจ้าชายอูเซอร์คาเรฝืนสะกดกลั้นอารมณ์ที่เดือดพล่านของตนลง
“เสด็จพ่อ...ทรงเป็นเช่นไรบ้าง” เนเฟอร์คาเรกระซิบถามเบาๆ
ดวงเนตรของฟาโรห์ก็ปรือตาขึ้นเหลือบมองโอรสจากมเหสีอิพูร่าทรงเสน่หามากที่สุด
“ข้า...ไม่...เป็น...ไร”
“เทพเจ้าทั้งมวลจะปกป้องเสด็จพ่อ” เนเฟอร์คาเรกล่าวเหมือนคำประกาศ “ลูกให้คนสืบเสาะหาตัวยาที่จะมารักษาโรคประหลาดนี่แล้ว”
“จะแพร่งพรายให้คนนอกรู้มิได้เป็นเด็ดขาด” มเหสีคูอิหวีดร้องขึ้นมา “หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอาจจะมีศัตรูฉกฉวยโอกาสนี้เข้าตีอียิปต์ของเราก็เป็นได้”
“นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง” เนเฟอร์คาเรลากเสียงยาวเหมือนคนเกียจคร้าน
“แต่การถวายการรักษาเสด็จพ่อก็เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด
ข้าได้ส่งคนไปสืบเสาะที่เมืองซัคคาราแล้ว ซึ่งหมอที่นั่นย่อมรู้อาการดีกว่าหมอหลวงที่ยังไม่เคยรู้จักโรคนี้มาก่อน
ซึ่งความจริงนั้นโรคประหลาดที่ระบาดอยู่นี่ก็กินเวลามาเกือบเดือนแล้ว มีบางคนที่อาการทุเลาลง”.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น