สามีร้อยล้าน   บทที่ 5. หนีฉันไม่พ้นแล้วล่ะคุณสามี “ ไม่เคยนึกว่าหลังบ้านหลังนี้จะร่มรื่นขนาดนี้ ” โบตั๋นหันไปตามเสียงที่ได้ยิน   ชายชราวัยเจ็บสิบเอ่ยพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ๆ   หญิงสาวลุกขึ้นจากเปลญวนแล้วยิ้มเขิน “ ไม่รู้เจ้าของบ้านเขาจะว่าอะไรหรือเปล่า ” “ ทำไมละ ออกจะสวยแถมได้ประโยชน์ด้วย   นี่ผักและพืชสมุนไพรไม่ใช่เหรอ ”            “ ใช่ค่ะคุณปู่ ”   โบตั๋วเดินมาที่แปลงผักใกล้ๆ “ พริก , กะเพรา , โหรพา ผักที่ใช้ในครัวเป็นประจำ ปลูกง่ายโตไวไม่กี่สัปดาห์ก็นำมาปรุงอาหารได้แล้ว ส่วนตะไคร้นี่นอกจากจะนำมาทำอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรแล้วยังสามารถช่วยไล่ยุงให้ด้วยค่ะ ” “ ยอดเยี่ยมจริงๆ ” ชายชราเอ่ยชมด้วยแววตาจริงใจ “ คนบ้านนี้ก็แปลกไม่เห็นใครคิดจะทำอะไรแบบนี้เลย ” “ อาจจะมีคนคิดแต่ไม่กล้าทำก็ได้ค่ะ ”   โบตั๋วไหวไหล่น้อยๆ “ หนูอยู่ที่นี่จะสามอาทิตย์แล้วยังเจอเจ้าของบ้านไม่ครบทุกคนเลยค่ะ ” “ แสดงว่าหนูเป็นคนมือเย็นปลูกต้นไม้ขึ้น ” ยังไม่ทันที่โบตั๋นจะพูดอะไรต่อเสียงเอะอะก็ดังมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่เธอหันมาทางชายชราท่าทางใจดีอีกครั้งเหมือนกับจะขอให้ช่วยไขความสงสัย “ สงสัยพว

สามีร้อยล้าน บทที่ 1เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า

 

 

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า

เฮ้อ! คิดแล้วเศร้ากับชะตากรรมของตัวเองเสียเหลือเกิน

ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆก่อนถอดแว่นกันแดดออก  เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าคุณชายศีตกาล  ขอโทษที่ย้ำบ่อยเพราะเขาโค-ต-ร จะภูมิใจในชาติตระกูลของเขานักหนา เพราะมีประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี  พูดง่ายๆ ตั้งแต่ท่านคุณปู่ทวดของเขา ท่านเป็นผู้ดีเก่ามีที่ดินนับร้อยไร่แถมทรัพย์สินเงินทองล้นมือ ปัจจุบันแม้ว่าจะไม่มีระบบศักดินาแล้ว แต่ตระกูลของพวกเราก็ยังได้รับความนับถือจากคนในแวดวงไฮโซ จนเมื่อญาติรุ่นต่อๆมาบริหารการเงินของตระกูลด้วยการเล่นหุ้นบ้าง ทำกิจการต่างๆบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเมื่อถึงรุ่นพ่อของคุณชายศีตกาลมันมีอะไรบ้างอย่างผิดพลาด  ที่ดินนับสิบไร่บนย่านดังในกรุงเทพฯที่เรียกว่าแพงหูดับตับไหม้นั้น แปรเปลี่ยนจากของตระกูลเบญจมหาทรัพย์ไปเป็นของคนนามสกุลเขียวไข่กา

อ๊ะ!อย่าตกใจ มีคนนามสกุลนี้จริง ให้ดิ้นตายเลยซิเอ้า! แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรขณะทาเขากำลังรื่นเริง เอ๊ย! ศึกษาปริญญาตรีที่อเมริกานะเหรอ   ก็สถานะทางการเงินที่ติดขัดไม่มีน้ำมัน(เงิน)มาหล่อลื่น ทำให้สถานการณ์ของตระกูลเขาเข้าขั้นวิกฤติ  ศีตกาลถูกเรียกตัวกลับทันทีแม้ความจริงเขาอิดออดมาหลายเดือน จนเมื่อบัตรเครดิตใช้การไม่ได้แล้วจึงต้องเผ่นกลับมาเมืองไทย  ท่านพ่อของเขาเล่าเรื่องกิจการที่กำลังล้มละลายและคฤหาสน์กำลังจะถูกยึดด้วยน้ำตานองหน้า และหนทางที่จะแก้ไขได้ในทางเดียวคือให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแต่งงานกับลูกสาวคนเดียวของตระกูลเขียวไข่กา! ซึ่งพวกเขาจะช่วยพยุงฐานะทางการเงินของตระกูลได้

          พระเจ้าช่วยกล้วยทอด! ศีตกาลอุทานในใจก็เขาเพิ่งฉลองวันเกิดอายุยี่ห้ากับเพื่อนได้แค่สองอาทิตย์ก่อนกลับเมืองไทย  เขากำลังจะสูญเสียความโสดที่รักและห่วงแหนยิ่งกว่าพรหมจารีเนี่ยนะ!  โธ่! เห็นเขาเป็นอะไร เป็นผู้ชายประเภทไหนที่จะยอมแต่งงานเพื่อเงินนะเหรอ!  คนอย่างนายศีตกาลมีหรือจะ ยะ..ยอม...ยอม

หรือแกจะไปทำงานก่อสร้างหาเงินมาใช้หนี้ร้อยกว่าล้าน หะ! แกมันเอาแต่เที่ยวเล่นเรียนไม่จบปริญญาโทด้วยซ้ำ!

ทำงาน! มันไม่มีคำนี้ในสมองของเขาด้วยซ้ำไป เหมือนท่านพ่อจะรู้จุดอ่อนข้อนี้ ท่านกระแอมไอเล็กน้อยก่อนเอ่ยขึ้นว่า

ทำยังไงก็ได้ให้หนูโบตั๋น เขียวไข่กา เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเบญจมหาทรัพย์ของเรา พอหนูโบตั๋นเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แกอยากจะไปทัวร์ยุโรปหรือไปขั้วโลกใต้ก็เรื่องของแก

แล้ว...คนนั้นหน้าอัปลักษณ์มากเหรอฮะ ถึงไม่มีใครแต่งด้วย หรือว่าอยู่คานทองมานานไม่มีคนมาสอย

เฮ้ย! ไอ้ลูกคนนี้นี่ หนูโบตั๋นเพิ่งอายุยี่สิบสองเอง สวยหรือเปล่าเรื่องนั้นไม่รู้  ส่วนแกมันก็อายุยี่สิบห้าแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว ถ้าแต่งงานกันแล้วก็เข้าไปจัดการกับทรัพย์สินของตระกูลเขียวไข่กาได้

ใครเป็นคนคิดเรื่องแบบนี้เนี้ย!

มันเป็นข้อเสนอของทางตระกูลเขียวไข่กา...

ฮ้า! นี่พวกนั้นอยากมาใช้นามสกุลเราขนาดนี้เลยเหรอ    

มันน่าภูมิใจชาติตระกูลตัวเองจริงๆ   และนั่น...ทำให้เขาต้องขับรถมาดูหน้าว่าที่เจ้าสาวถึงอยุธยา ไม่รู้ว่าหน้าตาลูกสาวคนเดียวของตระกูล เขียวไข่กาจะเป็นยังไง  ศีตกาลยืนงงอยู่หน้ารั้วไม้ไผ่ที่มีพืชชนิดหนึ่งที่เคยเห็นในแกงจืด ถ้าจำไม่ผิดเขาเรียกว่าต้นตำลึง เอ่อ...เขาเพิ่งรู้ว่ามันปลูกเป็นไม้ประดับรั้วบ้านได้ด้วยมันถึงเลื้อยเต็มไปหมด บ้านไม่มีกริ่งจะเรียกเจ้าของบ้านยังไง  แต่ก็น่าแปลกอีกนั้นแหละที่บ้านจนๆ หลังเล็กๆ อย่างนี้นะเหรอที่จะมีเงินเป็นพันล้านได้ หรือท่านพ่อจะถูกพวกนี้หลอก!

กะ...กะ...กะต๊าก...กะต๊าก!!!

ว๊าก!

ชายหนุ่มในชุดเบรนด์เนมตกใจเสียงกับประหลาดจนกระโดดโหย่งลืมเก๊กมาดหล่อ  พอมองไปที่พุ่มหญ้าหน้ารั้วก็เห็นไก่ตัวอ้วนกลมกำลังออกไข่  โอ้ว!เขาเพิ่งเคยเห็นไก่ออกไข่เป็นครั้งแรกนะเนี่ย 

ศีตกาลถึงกับผงะถอยหลังจนรู้สึกว่าชนกับใครเข้าจึงหันไปมอง  หมวกสานปีกกว้างทำให้มองไม่เห็นหน้าเห็นตา เสื้อเชิ้ตลายผ้าขาวม้ากับผ้าถุงลายดอกสีแดงทำให้เขาคิดไปในทันทีว่า

โทษทีป้า ผมตกใจไปหน่อย

ป้า?”    

คนตรงหน้าทำเอียงคอเล็กน้อย  หมวกใบใหญ่ทำให้เขามองไม่เห็นหน้าเลยไม่รู้ว่าป้าคิดอะไรอยู่  แกดูไม่สนใจเขาซ้ำยังเดินเลยไปดูเจ้าไก่กะต๊ากเมื่อกี้

ชอบทำอะไรประหลาดจริงๆนะเจ้าทองประสม 

เฮ้ย!!ชายหนุ่มทำตาโตนี่เขาหูแว่วตาฝาดไปหรือเปล่า  ยัยป้านี่คุยกับไก่ยังกะคุยกับคน  แกนั่งย่องๆ ลูบหัวเจ้าไก่ที่ท่าทางไม่รักดี  ว่าก็ว่าเถอะ ป้าแกไม่สนใจเขาเลยสักนิด  เฮ้ย! อย่างเขานี่คุณชายกาลเชียวนะ สาวแก่แม่ม่ายยังกรี๊ดสลบ ทำไมยัยป้านี่ทำเหมือนไม่มีเขาอยู่ในสายตาแถมยังสนใจไก่มากกว่าเขา  ชายหนุ่มก็เริ่มจะเกลียดอะไรที่มันเกี่ยวกับไก่ ตั้งแต่รู้ว่าต้องแต่งงานกับคนนามสกุลเขียวไข่กาแล้ว

เอ่อ...ป้าครับ...ป้า  เขาทำใจกล้าเดินเข้าไปทัก ยังไงเขาก็เด็กกว่าควรจะเข้าหาผู้ใหญ่ก่อนถึงจะถูกนี่ครับ นี่ใช่บ้านเลขที่130 หมู่2หรือเปล่าครับ 

โอ้ว! หรือความหล่อของเขาจะได้ผล  ศีตกาลยิ้มเข้าข้างตัวเองเมื่อยัยป้าหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แหม!ไม่เสียทีที่สวมสูทอาร์มานี่เข้าป่าเข้าดงมาเช่นนี้

หน้าตาก็ดี อ่านหนังสือไม่ออกเหรอ

เอิ๊ก! ได้ไงเนี๊ย เห็นว่าแก่กว่าหรอกถึงยอมพูดจาดีๆ ด้วย แต่เอ๊ะ!ทำไมยัยป้านี่เสียงเด็กจังเลยแฮะ  ยัยป้าลุกขึ้นยืนแล้วชี้ที่ป้ายไม้ที่ติดอยู่ริมรั้ว 

130หมู่2บ้านเขียวไข่กา   

ยัยป้าอ่านออกเสียงดังจนเขาอยากจะแทรกแผ่นดินหนี  ดีนะที่แถวนี้มีแต่ไก่ ไม่กา

ผมถามเพื่อความแน่ใจตั้งหากล่ะป้า!

แล้วมาทำธุระอะไรแถวนี้ ละไอ้หนู!

เฮ้ย! ทำไมเรียกผมอย่างนี้ล่ะ   เรียกซะเสียชื่อคาสิโนวาหมด

ก็เอ็งมาเรียกข้าว่าป้า ข้าก็เลยเรียกว่าเอ็งไอ้หนูมันผิดตรงไหนล่ะ

ผิดซิ...ก็ผมไม่ใช่ไอ้หนู ผมชื่อ...

ใครมาทำอะไรเสียงดังหน้าบ้านน่ะโบตั๋น 

เสียงทรงอำนาจประมาณกำนันในหนังไทยเก่าๆดังขึ้นจากด้านหลัง ศีตกาลหันขวับไปมองทันทีที่ ร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงบันไดบ้าน  บนบ่ามีปืนลูกซองยาวพาดอยู่  เขากลืนน้ำลายดังเอิ๊กจะเอาชีวิตโสดมาทิ้งไว้ที่แล้วไหมละ

แต่เอ๊ะ!เมื่อกี้เขาเรียกอะไรน่ะ โบตั๋น เหรอ?

ไม่รู้จ๊ะพ่อ เขามาถามหาบ้านเรา

ยัยป้าที่ยืนข้างๆ ถอดหมวกสานออก แล้วเขาก็อึ้งยกกำลังสองเมื่อเห็นใบหน้าใต้หมวกชัดๆ ว่าเป็นเด็กสาวใบหน้าเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากอิ่มได้รูป คิ้วเรียวรับกับดวงตากลมโตที่จ้องมองเขาราวกับเครื่องแสกนตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก

เฮ้ย!ทำไมป้าหน้าใสเหมือนเด็กวัยรุ่นเลยอ๊ะ

แล้วมาทำอะไรละพ่อหนุ่ม    

ผม...ผมชื่อ ศีตกาล เบญจมหาทรัพย์ ครับ มาหาว่าที่คู่หมั้น

คู่หมั้น?”   

ศีตกาลหันไปมองยัยป้าหน้าใสที่เอียงคอมองเขา  ดวงตากลมโตฉายแววฉงน แต่ไม่มีที่ท่าตกใจ

อ้อ!คุณชายกาลนั่นเอง  อ้าว!โบตั๋นเอ็งก็พาว่าที่ผัวแกขึ้นเรือนมาก่อน

โบตั๋น?”

ฮืม...   

ฮืมอะไรเล่า?” 

เขาอยากจะว๊ากใส่จริงๆ บ้านนี้ก็พิลึกชอบกลเขาอุตส่าห์พูดรักษาหน้าลูกสาวให้ แต่คนเป็นพ่อพูดจาทะแม่งๆ  ไม่ตื่นเต้นอะไรเลยเหรอ  เขายังเก็บอาการไม่อยู่ซ้ำยัยป้าหน้าใสนี่คือคนที่จะต้องแต่งงานด้วย!

ตามมาซิ    

ศีตกาลอ้าปากค้าง ดูเธอซิ! เธอเรียกเขาด้วยหางตาก่อนเดินนำเข้ามาในบ้าน บ้านนี้ไม่อบรมมารยาทลูกสาวบ้างหรือไง   ถึงเขาจะทำใจมาบ้างแล้วว่าต้องมาเจอเด็กสาวหน้าตาบ้านๆ แถมทำเหมือนเขามาขายประกันชีวิตยังไงยังนั้นแหน่ะ  ชายหนุ่มบ่นในใจแต่ก็ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านไม้หลังเล็กแต่สวย เป็นบ้านไม้ทรงไทยใต้ถุนสูง บนเรือนแบ่งเป็นอีกหลายห้อง ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกรายล้อมรอบบ้านทำให้ร่มรื่น บนเรือนชานถูกจัดเป็นที่นั่งสำหรับรับแขก   มีหญิงชราอายุประมาณ80ปี นั่งอ่านหนังสือธรรมะ  ใกล้ กันมีหญิงวัยกลางคนนั่งร้อยดอกไม้  ผู้ชายร่างใหญ่ที่แบกปืนเดินมารับผมเข้าไปนั่งข้างๆ หญิงชรา  ส่วนโบตั๋นนั่งพับเพียบไม่ไกลกันนัก

นั่งพับเพียบได้หรือเปล่าละพ่อกาล

ครับเขาตอบอย่างแปลกใจที่หญิงชราคนนั้นทำท่าเหมือนรู้จักผมดี  ครู่หนึ่งยัยป้าหน้าใสก็เอาขันเงินใส่น้ำเย็นลอยดอกมะลิมาเสิร์ฟ   

โบตั๋นนั่งนั้นแหละ แล้วก็ไหว้พี่เขาเสียด้วย

เขาหันไปมองยัยป้า เอ๊ย! ยัยโบตั๋นที่ทำหน้าอึดอัดใจครู่หนึ่ง  หลอนทำเหมือนไม่ค่อยพอใจแต่ก็ยอมยกมือไหว้  ศีตกาลอดยิ้มไม่ได้และรับไหว้ แหม!นึกว่าจะทำหน้าไร้อารมณ์เป็นอย่างเดียว

สวัสดีค่ะ โบตั๋ว เขียวไข่กาค่ะ

ผมศีตกาล เบญจมหาทรัพย์ครับ  รู้สึกเหมือนจะแนะนำตัวหลายรอบแล้วล่ะ  

ดีๆ กันไว้อย่างนี้ก็ดีแล้ว ยายเห็นแล้วก็จะได้สบายใจ เอ้า!พ่อมิ่งไปหยิบแหวนในกล่องของฉันมาหน่อยซิ!

ครับคุณแม่

ผู้ชายร่างใหญ่ยักษ์ที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อของโบตั๋นเดินหายไปอีกห้องหนึ่ง ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เดินกลับมานั่งที่เดิมพร้อมส่งกล่องแหวนให้ผู้เป็นยาย หญิงชราที่คนในบ้านให้ความเคารพยำเกรงเปิดกล่องไม้เล็กๆ แล้วหยิบแหวนเพชรน้ำงามออกมา แววตามีรอยยิ้มก่อนส่งให้ว่าที่ลูกเขย

เข้าใจข้อตกลงของเราดีแล้วใช่ไหมพ่อกาล

ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจแล้วเอ่ยตอบเสียงแผ่ว ครับ

ในระยะเวลาหนึ่งปีนี้ โบตั๋นเข้าอยู่ในบ้านคฤหาสน์เบญจมหาทรัพย์ในฐานะภรรยาของพ่อกาล ในระหว่างนี้หนูโบตั๋นจะเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด หากว่าที่ลูกเขยทำตัวเป็นที่น่าพอใจ คุณยายจะยอมยกทรัพย์สินมรดกในส่วนของหนูโบตั๋นให้พ่อกาล

ศีตกาลหันไปมองทางว่าที่ภรรยาของเขา  ดวงตากลมโตเหลือบมองมาพอดีก่อนจะเสมองไปทางอื่น  นี่เธอยอมรับข้อเสนอแบบที่ตัวเองเสียเปรียบแบบนี้ได้ยังไง  แต่เอาเถอะเขาจำเป็นต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เพื่อพยุงครอบครัวที่ใกล้ล้มละลายเต็มทีเป็นสามี-ภรรยาแค่ปีเดียวแค่ทำให้อีกฝ่ายถูกใจก็พอ  เพราะแค่ผ่านปีเดียวนี้ไปบ้านเขาคงปลดภารหนี้สินได้หมด ถ้าบ้านนี้รวยจริงอย่างที่บิดาของเขากล่าวไว้

โบตั๋นผู้เป็นยายหันมายิ้มอบอุ่นให้หลานสาว หลานรับเงื่อนไขนี่ได้ไหม

หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ

หลานทราบแล้วค่ะ ถ้าเป็นความต้องการของคุณยาย โบตั๋นก็ทำให้ได้ค่ะ

หญิงชราพยักหน้ารับแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ผิดกับสีหน้าของว่าทีสามีและภรรยาที่ทำหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ยินดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น 

แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ถึงเหตุผลที่แท้ของหญิงชรา ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไร ในเมื่อเงือนไขคือเงินตราไม่ใช่ความรัก.

 
 
Thumbnail Seller Link
สามีร้อยล้าน
ย่าหยา
www.mebmarket.com
แผนที่ในมือถูกหยิบออกมาดูซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ชายหนุ่มภาวนาให้มาผิดที่แต่หลังจากที่ขับรถหลงทางอยู่ราวสองชั่วโมง เขากลืนน้ำลายดังเอิ๊ก! ก่อนท...
Get it now

ความคิดเห็น

นิยายยอดนิยม

คุณหมอจอมบงการ บทนำ

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 5

เพลิงพิศวาสจอมเถื่อน บทที่ 5

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 1

ลิขิตรักในเพลิงทราย บทที่ 4

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 4

เพลิงพิศวาสจอมเถื่อน บทที่ 1

สามีร้อยล้าน ตอนที่ 5 หนีฉันไม่พ้นแล้วล่ะคุณสามี

บ่วงรักเทพบุตรมาเฟีย บทที่ 2

ปฏิบัติการหัวใจคุณผียอดวุ่น ตอนที่ 5