สามีร้อยล้าน   บทที่ 5. หนีฉันไม่พ้นแล้วล่ะคุณสามี “ ไม่เคยนึกว่าหลังบ้านหลังนี้จะร่มรื่นขนาดนี้ ” โบตั๋นหันไปตามเสียงที่ได้ยิน   ชายชราวัยเจ็บสิบเอ่ยพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ๆ   หญิงสาวลุกขึ้นจากเปลญวนแล้วยิ้มเขิน “ ไม่รู้เจ้าของบ้านเขาจะว่าอะไรหรือเปล่า ” “ ทำไมละ ออกจะสวยแถมได้ประโยชน์ด้วย   นี่ผักและพืชสมุนไพรไม่ใช่เหรอ ”            “ ใช่ค่ะคุณปู่ ”   โบตั๋วเดินมาที่แปลงผักใกล้ๆ “ พริก , กะเพรา , โหรพา ผักที่ใช้ในครัวเป็นประจำ ปลูกง่ายโตไวไม่กี่สัปดาห์ก็นำมาปรุงอาหารได้แล้ว ส่วนตะไคร้นี่นอกจากจะนำมาทำอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรแล้วยังสามารถช่วยไล่ยุงให้ด้วยค่ะ ” “ ยอดเยี่ยมจริงๆ ” ชายชราเอ่ยชมด้วยแววตาจริงใจ “ คนบ้านนี้ก็แปลกไม่เห็นใครคิดจะทำอะไรแบบนี้เลย ” “ อาจจะมีคนคิดแต่ไม่กล้าทำก็ได้ค่ะ ”   โบตั๋วไหวไหล่น้อยๆ “ หนูอยู่ที่นี่จะสามอาทิตย์แล้วยังเจอเจ้าของบ้านไม่ครบทุกคนเลยค่ะ ” “ แสดงว่าหนูเป็นคนมือเย็นปลูกต้นไม้ขึ้น ” ยังไม่ทันที่โบตั๋นจะพูดอะไรต่อเสียงเอะอะก็ดังมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่เธอห...

บทที่ 3. พบกันล้วนเกิดจากวาสนา 1

บทที่ 3. พบกันล้วนเกิดจากวาสนา 1
 

บุรุษผู้หนึ่งอายุเพียงสิบเก้าปีก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแม่ทัพแล้ว

            ชาวบ้านต่างพากันหลีกทางขบวนทหารกล้าที่กำลังผ่านถนนสายหลักมุ่งหน้าสู่วังหลวง บุรุษในชุดศึกสีดำขรึมขลังบนอาชาศึกงามสง่าสะกดทุกสายตาให้หยุดมองเพียงเขา ใบหน้านั้นหล่อเหลา สุขุมและเยือกเย็นประหนึ่งเทพเซียน ดวงตาคมคู่นั้นเป็นสีนิลดุจเดียวกับบ่อน้ำลึกไร้รอยไหวกระเพื่อม เขาเป็นบุรุษที่หญิงสาวหลงใหลคลั่งไคล้หวังจะได้นั่งตำแหน่งฮูหยิน

            ทว่าเจ้าของดวงตาคมดุจเหยี่ยวคู่นั้นหาได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ไม่

            แต่ไหนแต่ไร สมองของเขาคิดเพียงเรื่องการรบ ตั้งแต่กลับเข้าตระกูล เขาก็เข้าสู่การเป็นทหาร และเป็นทหารชั้นผู้น้อยที่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงเขาเป็นใคร ยามนั้นเขาไม่ได้โกรธเคืองที่บิดาทำเช่นนั้น คล้ายยอมรับโชคชะตา คล้ายขัดขืนอยู่ในที แต่ไหนแต่ไรเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองยิ่ง ใช้เวลาห้าปีสร้างผลงาน ในค่ายทหาร ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือบุตรชายคนโตของตระกูลสวินผู้เป็นนักรบมาหลายชั่วอายุคน

สวินเย่ว์ ได้กลับจวนอย่างสง่าผ่าเผย ผิดกับทุกครั้งที่เขามักลอบเข้าไปพบบิดามารดาโดยที่ไม่มีผู้อื่นรู้ การกลับเข้าจวนครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการประกาศตัวตนที่แท้จริงของเขา

หญิงสาวประคองตะกร้าที่คล้องแขนไว้ด้วยความระมัดระวังมิให้ถูกผู้คนเบียด นางระวังของในตะกร้ามากกว่าตนเองเสียอีก ผู้คนมากมายโห่ร้องต้อนรับแม่ทัพหนุ่มบนหลังอาชาที่กำลังเคลื่อนผ่านพวกเขาไป ร่างเล็กถูกเบียดไปมาจนผ้าคลุมศีรษะเลื่อนหล่น นางแหงนหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้นั้นที่สายตายังคงมองตรงไปด้านหน้าไม่เหลียวมองรอบข้างเลยสักนิด เสิ่นฉางซีเผลอยิ้มบางเบา มองจนเห็นแผ่นหลังของเขาผ่านไปลับตาแล้วจึงยกมือจับผ้าคลุมศีรษะให้มิดชิดอีกครั้ง แล้วค่อยๆ แทรกตัวออกจากฝูงชนเดินลัดเลาะในถนนเส้นรองมาจนมาถึงตรอกด้านหลังจวนสกุลสวิน บ่าวชายที่เฝ้าประตูด้านหลังเห็นหญิงสาวจึงเอ่ยทักด้วยความคุ้นเคย

“พี่ชาย รบกวนขอพบแม่ครัวหนวนเจ้าค่ะ”

“แม่นางฉางซี” คนเฝ้าประตูส่งยิ้มให้ “เจ้าเข้าไปได้เลย แม่ครัวได้แจ้งกับพวกเราไว้แล้ว”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางยิ้มเล็กน้อยแล้วล้วงหยิบเอาห่อสมุนไพรส่งให้คนเฝ้าประตูคนละห่อ “นี่เป็นสมุนไพรบำรุงข้อและกระดูก พี่ชายยืนทั้งวันจะปวดเข่าได้ ต้มดื่มในตอนเช้าจะช่วยบำรุงเจ้าค่ะ”

“พวกข้าไม่เกรงใจละนะ ขอบใจแม่นางเสิ่นมาก”

หญิงสาวก้มศีรษะให้เล็กน้อยแล้วเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย สองปีมานี้ นางมาส่งสมุนไพรและของป่าหายากให้จวนสกุลสวินมาตลอด เดือนละหนึ่งถึงสองครั้ง  แรกทีเดียวนางรู้จักแม่ครัวหนวนเพราะนางเอาสมุนไพรป่ามาขายที่ร้านขายยา บังเอิญได้พบแม่ครัวหนวนที่มาซื้อสมุนไพรนำไปทำอาหาร นางถูกคำว่า สกุลสวิน ดึงดูด จึงเข้าไปพูดคุยและแนะนำเรื่องรายการอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ

สำหรับเสิ่นฉางซีแล้ว สิ่งที่นางทำอยู่เพื่อ ตอบแทน ผู้มีพระคุณของนาง

“แม่ครัวหนวน” หญิงสาวร้องทัก แม่ครัวร่างอวบหันมาตามเสียงเรียกเห็นเป็นคนที่รออยู่ก็ยิ้มกว้าง กวักมือเรียกนางเข้าไปหา “วันนี้ข้าได้เขากวางอ่อนมาเจ้าค่ะ ใช้บำรุงไขข้อและทำให้กระฉับกระเฉง”

“เจ้ามาเสียที” แม่ครัวยิ้มออกมาได้ “แขกมาเต็มจวน ข้าทำไม่ทันแล้ว เจ้ามาช่วยเป็นลูกมือข้าหน่อย”

“ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ เดินลากขาข้างขวาไปล้างมือแล้วรับผ้ากันเปื้อนมาสวมทับชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ตนสวมอยู่ นางผูกปมผ้าคลุมศีรษะให้แน่นขึ้นเพื่อทำงานในครัวได้สะดวก

“นังหนู มาช่วยทำปลาเร็ว”

“ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวหมุนตัวไปช่วยแม่ครัวทันที แค่แม่ครัวสั่งนางก็ทำตามได้อย่างคล่องแคล่ว แล่เนื้อปลาไร้ก้างวางใส่จานให้อย่างดี

“วันนี้คุณชายใหญ่กลับเข้าจวน ผู้คนมาแสดงความยินดีมากมายนัก อาหารทำแทบไม่ทันทั้งที่เตรียมไว้ก่อนแล้วแท้ๆ”

“คุณชายใหญ่?” เสิ่นฉางซีทวนคำที่ได้ยินแต่มือก็ยังทำงานไม่ได้หยุดนิ่ง

“นังหนูคงไม่เคยเห็น คุณชายใหญ่ของเราก็คือแม่ทัพสวินเย่ว์” 

นางพยักหน้าหงึกหงัก เก็บซ่อนรอยยิ้มไว้ นางมาขายสมุนไพรหรือของป่ามิใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจ สำหรับคนผู้นั้นอาจลืมเลือนนางไปนานแล้ว แต่สำหรับนางแล้วการได้เฝ้าติดตามข่าวคราวของเขาคือความสุขของนาง

ห้าปีก่อน ตั้งแต่วันที่เขาจากไป นางเฝ้าติดตามข่าวคราวของเขาเรื่อยมา จากการสอบถามกับไต้ซือซูจึงได้รู้ว่าเขาชื่อสวินเย่ว์ นางอยากขอบคุณที่เขาเมตตาช่วยเหลือ ซ้ำยังอุ้มนางไว้อย่างไม่รังเกียจ แต่นางรู้จากคำบอกเล่าของผู้อื่น ช่วงเวลาที่ไต้ซือซูรักษานางนั้น สวินเย่ว์ไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้าใกล้ วันที่ไต้ซือซูอำลาพร้อมกับพาสวินเย่ว์ไปด้วยนั้น เขาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ แม้นางจะอายุแค่สิบขวบกลับรู้ได้ดีว่าเขามิใช่คนธรรมดา นางจึงหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่

นางได้แต่มองแผ่นหลังของเขาไปไกลสุดสายตา

นับตั้งแต่นั้น นางอาศัยในสำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม ค่อยๆ เก็บเกี่ยวเรื่องราวของเขามาเป็นเรื่องของตนเอง ช่วงที่นางรักษาตัวอยู่ในห้อง ไต้ซือซูบอกเล่าเรื่องของสวินเย่ว์ราวกับเล่านิทานให้นางฟัง นางจึงรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาและเหตุผลที่จำเป็นต้องติดตามไต้ซือซูใช้ชีวิตนอกจวนอันใหญ่โตถึงสี่ปี

 

นังหนู

นางจำได้ว่าวันนั้นไต้ซือซูเล่าเรื่องชะตาทรราชของสวินเย่ว์ให้นางฟัง

เจ้าไม่กลัวชายผู้นั้นรึ  ใบหน้าเปี่ยมเมตตาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

เด็กหญิงส่ายหน้าไปมา เขาเป็นผู้มีพระคุณของข้า ข้าจะกลัวเขาได้อย่างไร

ผู้มีพระคุณรึ ไต้ซือซูเอ่ยซ้ำแล้วพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม พบกันล้วนเกิดจากวาสนา บางทีเจ้ากับเขาอาจมีวาสนาต่อกัน บางทีอาจเป็นเจ้าที่ช่วยคนผู้นั้นได้

ข้ารึ นางใช้นิ้วชี้ที่ใบหน้าตนเอง อย่างข้าจะช่วยผู้ใดได้

ไต้ซือซูพยักหน้าอีกครั้ง

ขอเพียงมีความตั้งใจจริง ย่อมทำได้แน่นอน

 

            ภายใต้การดูแลเลี้ยงดูของสกุลเกา เสิ่นฉางซีเติบโตขึ้นตามวัย ในหนึ่งปีไต้ซือซูจะแวะเวียนมาดูอาการบาดเจ็บของนางสักครั้ง นายท่านใหญ่ให้คนไปสืบข่าวจึงรู้ว่าบ้านของนางนั้นถูกไฟไหม้ ไม่มีสิ่งใดเหลือแล้ว นางผู้รอดจากความตายมาครั้งหนึ่งแล้วนั้นจึงมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ แม้มีใบหน้าที่มีรอยแผลเป็น ต้องเดินลากขาข้างขวาและยังไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ นางจึงพยายามเรียนรู้ทักษะหลายๆ ด้านเพื่อที่วันหนึ่งนางออกจากสกุลเกาแล้วยังสามารถหาเลี้ยงตัวเองโดยไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด

Thumbnail Seller Link

            สตรีที่ไม่สามารถมีบุตรได้นั้น ย่อมไม่มีใครต้องการ นางจึงคิดจะหาเลี้ยงชีพเพียงลำพัง

            ด้วยคิดเสมอมาว่าต้องอยู่คนเดียวให้ได้ จึงพยายามเรียนรู้เรื่องต่างๆ ให้มากที่สุด แม้เป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย  แต่ยามอยู่ในครัวก็ใช้เก้าอี้มาต่อขาเพื่อยืนอยู่หน้าเตาได้  นางเรียนรู้การทำอาหารจากพ่อครัว ยามอยู่กับเกาฮูหยินก็ฝึกฝนงานเย็บปัก  เการุ่ยเฉียงมักเรียกนางไปฝึกคัดตัวอักษรพร้อมกัน นางทำตามไม่อิดออด ทั้งอ่านตำราท่องโคลงกลอน  นายท่านรองกวักมือเรียกนางไปสวนสมุนไพร นางคว้าตะกร้าวิ่งกะโผลกกะเผลกตามไป โดยไม่ต้องให้นายท่านเอ่ยปากเรียกซ้ำ มีเพียงการฝึกยุทธ์ที่นางไม่อาจทำได้ ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บตั้งแต่ครั้งนั้น

            นางหวังเพียงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่านพ่อ ท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์จะได้ไม่เป็นทุกข์ใจเพราะนาง

            “ฉางซี”

            “เจ้าคะ”

            เสียงแม่ครัวหนวนเรียกทำให้เด็กสาวตื่นจากภวังค์ นางช่วยงานร่วมชั่วยาม เห็นทีควรกลับได้แล้ว มิเช่นนั้นนายท่านรองจะรอนาน

            หรืออาจจะไม่ได้รอนางอยู่ก็เป็นได้

            “เจ้านี่น่าจะมาสมัครเป็นแม่ครัวในจวนนี้นะ”

            “ข้าหรือ?” นางชี้นิ้วที่หน้าตัวเอง แล้วก็ยิ้มออกมา

            “เจ้าอายุยังน้อย ฝึกฝนเอาดีด้านนี้ย่อมเป็นแม่ครัวใหญ่ได้แน่ อย่าเอาแต่หาของป่าหรือสมุนไพรมาขายเลย”.

 

Thumbnail Seller Link
จารใจทุรยศ +ตอนพิเศษ
เพลงมีนา
www.mebmarket.com
เรื่องย่อ “ฆ่าตัวตาย?” เด็กหญิงเอียงคออย่างงุนงง “ผู้ใดฆ่าตัวตายเจ้าคะ” “ก็เจ้าไง” เขาใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผาก...
Get it now
 

ความคิดเห็น

นิยายยอดนิยม

คุณหมอจอมบงการ บทนำ

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 5

เพลิงพิศวาสจอมเถื่อน บทที่ 5

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 1

ลิขิตรักในเพลิงทราย บทที่ 4

คุณหมอจอมบงการ บทที่ 4

เพลิงพิศวาสจอมเถื่อน บทที่ 1

บ่วงรักเทพบุตรมาเฟีย บทที่ 2

สามีร้อยล้าน ตอนที่ 5 หนีฉันไม่พ้นแล้วล่ะคุณสามี

ปฏิบัติการหัวใจคุณผียอดวุ่น ตอนที่ 5